หิมะ Snow / Orhan Pamuk / รัชยา เรืองศรี / สำนักพิมพ์บทจร

หิมะโปรยปรายลงมาอย่างเงียบงัน คา กวีหนุ่มผู้ลี้ภัยทางการเมือง เดินทางกลับมายัง คาร์ส เมืองชายแดน เพื่อสืบหาสาเหตุการฆ่าตัวตายของเหล่าเด็กสาวผู้ยืนยันจะสวมฮิญาบมาโรงเรียน
 
ณ เมืองที่ถูกปิดล้อมไว้ด้วยหิมะแห่งนี้ คา ได้พบ อิเป็ค หญิงงามที่ตนเคยตกหลุมรัก และคาดิเฟ น้องสาวผู้สวมฮิญาบ มิเท่านั้น เขายังได้ถลำตัวเข้าไปพัวพันกับกลุ่มอิสลามการเมืองและคณะปฏิวัติซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาไปตลอด
 
ภายใต้หิมะที่ตกลงมาไม่หยุดหย่อน เมืองแห่งนี้ได้เปลี่ยนโฉมกลายเป็นฉากละเลงเลือดของความขัดแย้งทางความเชื่อ และยังปิดซ่อนปริศนาเกี่ยวกับชายเคร่งอิสลามนัยน์ตาสีฟ้าผู้ลึกลับนามว่า บลู เอาไว้อีกด้วย
 
 
วรรณกรรมของ ออร์ฮาน ปามุก จัดอยู่ในแนวร่วมสมัย งานของเขาสำรวจประเด็นเรื่อง ความรัก ตัวตน ความเชื่อทางศาสนา และการเมืองอย่างเข้มข้น แต่ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง ในปี 2005 ปามุกถึงขั้นถูกดำเนินคดีทางกฎหมายเพราะแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมาแล้ว
 
ปามุกเชื่อเรื่องเสรีภาพในการพูด เขาถือว่าภาระสำคัญอย่างหนึ่งของนักเขียนคือการรักษาคุณค่านี้ไว้ เขายังคงอาจหาญสร้างงานเขียนที่พูดเรื่องความแตกต่างทางการเมืองและความเชื่อออกมาอย่างต่อเนื่อง และเรื่อง หิมะ ก็แสดงถึงอัตลักษณ์ข้อนี้ของปามุกอย่างชัดเจน

หิมะ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2002 เป็นผลงานชิ้นสำคัญของออร์ฮาน ปามุก นักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมคนแรกของตุรกี

ในปี 2006 ซึ่งปามุกได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม นิตยสาร ไทม์ ได้จัดให้เขาเป็นหนึ่งในร้อย “บุคคลผู้ขับเคลื่อนโลก”

---

"คาร์สแปลกแยกจากส่วนอื่นๆ ของตุรกีเช่นเดียวกับ คา ผู้ลี้ภัยอยู่ในต่างแดนถึง 12 ปี ทั้งเมืองและคนคือ “ความเป็นอื่น” ที่อยู่ภายในบ้านเกิดเมืองนอน ต่างถูกละเลย หลงลืม และแยกขาดจากโลกภายนอก ในซากปรักของความรุ่งเรืองในอดีตและความเป็นเมืองชายแดนอันแสนยากไร้ในปัจจุบันนี้เองที่ปามุกได้เผยให้เห็นว่าใจกลางของปัญหายืดเยื้อระหว่างฝ่ายโลกวิสัยกับฝ่ายอิสลามในตุรกีนั้นขมวดอยู่กับปมความปรารถนาประการหนึ่ง นั่นคือ การมีตัวตนในความรับรู้ของผู้อื่นในฐานะผู้มีความเจริญทัดเทียมกัน"

- ธนาวิ โชติประดิษฐ

"นวนิยายลำดับที่เจ็ดของนักเขียนชาวตุรกี ออร์ฮาน ปามุก ผู้นี้ ไม่เพียงเป็นเครื่องประกาศความสามารถในการผูกเรื่องอย่างวางไม่ลงแล้ว แต่ยังเป็นหนังสือที่ไม่อ่านไม่ได้ในยุคนี้อีกด้วย"

- มาร์กาเร็ต แอทวูด