"ถ้าไม่ตระหนักให้ชัด สถาบันกษัตริย์ก็จะเป็นไปเพื่อพระราชายิ่งกว่าราษฎร"
เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ นั้นเท่ากับต่ออายุให้สถาบันกษัตริย์ไทย เพราะถ้าคงพระราชอำนาจไว้อย่างราชาธิปไตยในคราบของเผด็จการ สถาบันดังกล่าวย่อมปลาสนาการไปเสียแล้ว ที่น่ากลัวก็คือ เผด็จการ ป. พิบูลสงคราม เอาสถาบันกษัตริย์มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองของเขา แม้เขาจะสะกดให้พระราชาอยู่ในอำนาจเขาก็ตาม หาที่ร้ายยิ่งกว่านั้นก็ตรงที่ สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พยายามทำให้สถาบันกษัตริย์กลายเป็นลัทธิเทวราชาไป จนประหนึ่งกับเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทั้งมอมเมาราษฎรในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ของสถาบันดังกล่าว โดยโยงไปยังพระอดีตมหาราชาและมหาราชินี ซึ่งมีแต่ความดีไม่มีความชั่ว นี่นับว่าผิดไปจากข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
สถาบันใดๆ ถ้าไม่ตั้งอยู่บนสัจจะ จะดำรงคงอยู่นานไม่ได้ และสถาบันใดที่ไม่ได้รับการวิพากย์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาอย่างรับผิดชอบกับมหาชนอย่างโปร่งใส ก็จะดำเนินอยู่นานไม่ได้เช่นเดียวกัน
ผู้ที่ต้องการเห็นอนาคตของสถาบันกษัตริย์ของไทย ต้องมีความกล้าหาญทางจริยธรรม ต้องกล้าพูดความจริงกับพระราชา ต้องกล้าขัดพระทัยเมื่อเจ้านายทำผิด หรือหลงไปกับคำสรรเสริญเยินยออย่างปราศจากความจริง
--------------------------------------
สถาบันพระมหากษัตริย์: ความรู้ฉบับพื้นฐาน (ปกอ่อน)
ผู้เขียน: ส. ศิวรักษ์
สำนักพิมพ์: สืบสาส์น
พิมพ์เมื่อ: ตุลาคม 2565
ISBN: 9786165940849