“...สักวันหนึ่ง เราก็คงแพ้พ่าย เมื่อร่างกายข้ามกาลเวลา
ร่างกายสึกกร่อนอ่อนล้า ไม่ช้าไม่นาน พ่ายแพ้และสลายหายไป
เมื่อใดที่ร่างกายแตกสลาย ความคิดหายวับตามไปด้วย
ผมตระหนักในเรื่องนั้น อย่างไรก็ตาม ผมอยากจะยืดเวลาออกไปให้ยาวไกลที่สุด
ห่างไกลจากจุดที่พลังคึกคักเข้มข้นจะพ่ายแพ้แก่สารพิษ
นั่นเป็นเป้าหมายของการเป็นนักเขียนนิยายของผม...”
มูราคามิไม่ได้ชวนเราไปวิ่ง และไม่ได้อธิบายวิธีการซ้อมเพื่อเข้าเส้นชัยของมาราธอนหรือไตรกีฬา
แต่อ่านแล้วกลับได้พลังของการมีชีวิต
มูราคามิบอกว่า ทุกอย่างที่เค้าเอามาใช้เขียนนิยาย มาจากการวิ่งในทุกวัน
“...เมื่อใดที่ได้ประสบการณ์สยองขวัญ เราจะบันทึกบทเรียนจำได้ขึ้นใจ การเรียนรู้ส่วนใหญ่ในชีวิตมักจำเป็นต้องมีความเจ็บปวดทางเรือนกายเป็นเครื่องกระตุ้น...”
คงเป็นเพราะ ไม่งั้น เราไม่ยอมเชื่อว่ามัน จริง มั้ง